บล็อกของฉัน

บทความ, ความรู้, และแรงบันดาลใจในการออกแบบ

Blog Post 1: เทรนด์การออกแบบเว็บปี 2025

เทรนด์การออกแบบเว็บปี 2025

มาดูกันว่าในปี 2025 นี้ เทรนด์การออกแบบเว็บไซต์จะเปลี่ยนไปในทิศทางใดบ้าง และสิ่งใดที่คุณควรจับตาดู...

อ่านต่อ
Blog Post 2: การใช้งาน Flexbox vs. Grid ใน CSS

การใช้งาน Flexbox vs. Grid ใน CSS

สับสนระหว่าง Flexbox และ CSS Grid ใช่ไหม? บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจความแตกต่างและเลือกใช้ให้เหมาะสม...

อ่านต่อ
Blog Post 3: สร้างเว็บไซต์ที่ Responsive ด้วย Media Queries

สร้างเว็บไซต์ที่ Responsive ด้วย Media Queries

การทำให้เว็บไซต์ของคุณแสดงผลได้ดีบนทุกขนาดหน้าจอเป็นสิ่งสำคัญ เรียนรู้วิธีทำด้วย Media Queries...

อ่านต่อ
Blog Post 4: เคล็ดลับการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บ

เคล็ดลับการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บ

เว็บไซต์ที่โหลดเร็วขึ้นหมายถึงประสบการณ์ที่ดีขึ้นสำหรับผู้ใช้ มาดูเคล็ดลับง่ายๆ ที่คุณสามารถนำไปใช้ได้เลย...

อ่านต่อ

เทรนด์การออกแบบเว็บปี 2025

เทรนด์การออกแบบเว็บปี 2025

Minimalism ยังคงอยู่

แม้ว่าเทรนด์การออกแบบจะหมุนเวียนไปเรื่อยๆ แต่ Minimalism หรือความเรียบง่ายยังคงเป็นหัวใจหลักของการออกแบบเว็บในปี 2025. การเน้นพื้นที่ว่าง (Whitespace), การใช้สีที่น้อยลงแต่มีความหมาย, และการจัดวางองค์ประกอบอย่างเป็นระเบียบจะช่วยให้ผู้ใช้งานโฟกัสกับเนื้อหาได้ดีขึ้นและได้รับประสบการณ์ที่สะอาดตา.

Dark Mode ที่ปรับแต่งได้

Dark Mode ไม่ใช่แค่ตัวเลือกอีกต่อไป แต่เป็นคุณสมบัติที่ผู้ใช้คาดหวัง. เทรนด์ในปีนี้คือ Dark Mode ที่สามารถปรับแต่งได้มากขึ้น ทั้งในด้านโทนสีและความเข้ม เพื่อให้ผู้ใช้เลือกได้ตามความชอบส่วนบุคคลและลดความเมื่อยล้าของดวงตา.

Interactive Elements & Micro-animations

ลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ เช่น Micro-animations เมื่อ Hover เมาส์, การเปลี่ยนผ่านที่ลื่นไหล, หรือองค์ประกอบที่มีการตอบโต้จะช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับเว็บไซต์และสร้างความประทับใจให้กับผู้ใช้งานโดยไม่ทำให้รู้สึกยุ่งเหยิง.

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทรนด์ที่จะมาแรงในปี 2025 หากคุณสนใจที่จะนำเทรนด์เหล่านี้ไปใช้กับเว็บไซต์ของคุณ อย่าลังเลที่จะติดต่อผมเพื่อขอคำปรึกษา!

กลับไปที่รายการบล็อก

การใช้งาน Flexbox vs. Grid ใน CSS

การใช้งาน Flexbox vs. Grid

Flexbox: One-dimensional Layout

Flexbox (Flexible Box Layout Module) เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับการจัดเรียงองค์ประกอบใน หนึ่งมิติ ไม่ว่าจะเป็นแถว (row) หรือคอลัมน์ (column). เหมาะสำหรับการจัดวาง Navbar, กลุ่มปุ่ม, หรือ Card ที่มีขนาดไม่เท่ากันในแถวเดียว.

.container-flex {
  display: flex;
  justify-content: space-between; /* จัดวางตามแนวนอน */
  align-items: center; /* จัดวางตามแนวตั้ง */
}

CSS Grid: Two-dimensional Layout

ในทางกลับกัน CSS Grid Layout ออกแบบมาเพื่อการจัด Layout ใน สองมิติ พร้อมกัน ทั้งแถวและคอลัมน์. เหมาะสำหรับการสร้าง Layout ของหน้าเว็บทั้งหมด, แกลเลอรีรูปภาพ, หรือส่วนที่ต้องการการจัดวางที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อน.

.container-grid {
  display: grid;
  grid-template-columns: 1fr 2fr 1fr; /* 3 คอลัมน์ ไม่เท่ากัน */
  grid-template-rows: auto 1fr auto; /* 3 แถว */
  gap: 20px; /* ระยะห่างระหว่าง Grid Items */
}

เมื่อไหร่ควรใช้อะไร?

บ่อยครั้ง เราใช้ทั้ง Flexbox และ Grid ร่วมกันในโปรเจกต์เดียว! Grid สำหรับโครงสร้างหลักของหน้า และ Flexbox สำหรับการจัดเรียงองค์ประกอบภายใน Grid Cell นั้นๆ.

กลับไปที่รายการบล็อก

สร้างเว็บไซต์ที่ Responsive ด้วย Media Queries

Responsive Design ด้วย Media Queries

ทำไม Responsive Design ถึงสำคัญ?

ในปัจจุบัน ผู้คนเข้าถึงเว็บไซต์ผ่านอุปกรณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ, แท็บเล็ต ไปจนถึงสมาร์ทโฟน. การสร้างเว็บไซต์ที่ Responsive คือการทำให้เว็บไซต์ของคุณสามารถปรับเปลี่ยน Layout และการแสดงผลให้เหมาะสมกับขนาดหน้าจอของอุปกรณ์ที่แตกต่างกันได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์ใดก็ตาม.

Media Queries คืออะไร?

Media Queries คือคุณสมบัติใน CSS3 ที่ช่วยให้คุณสามารถกำหนด Style ที่แตกต่างกันได้โดยอิงจากคุณสมบัติของอุปกรณ์ที่แสดงผล เช่น ความกว้างของหน้าจอ, ความสูง, หรือ Orientation (แนวตั้ง/แนวนอน).

/* Style สำหรับหน้าจอทั่วไป */
body {
  font-size: 16px;
}

/* Style สำหรับหน้าจอขนาดเล็ก (เช่น มือถือ) */
@media (max-width: 768px) {
  body {
    font-size: 14px;
  }
  .navbar {
    flex-direction: column;
  }
  .project-grid {
    grid-template-columns: 1fr;
  }
}

/* Style สำหรับหน้าจอขนาดใหญ่พิเศษ (เช่น Desktop ขนาดใหญ่) */
@media (min-width: 1200px) {
  .container {
    max-width: 1100px;
  }
}

การใช้งาน Media Queries

การใช้งาน Media Queries มีหลักการคือการกำหนดจุดแตกหัก (Breakpoint) ที่คุณต้องการให้ Layout เปลี่ยนไป โดยใช้ `max-width` สำหรับการออกแบบแบบ "Mobile-first" (เริ่มต้นจากเล็กไปใหญ่) หรือ `min-width` สำหรับ "Desktop-first" (เริ่มต้นจากใหญ่ไปเล็ก).

ด้วย Media Queries คุณจะสามารถควบคุมการแสดงผลของเว็บไซต์ได้อย่างละเอียด ทำให้มั่นใจได้ว่าเว็บไซต์ของคุณจะดูดีและใช้งานง่ายบนทุกแพลตฟอร์ม!

กลับไปที่รายการบล็อก